
การเรียนรู้เกี่ยวกับวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ก่อนจะไปถึงการเชื่อมต่อวงจรที่สลับซับซ้อนหรือการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจจะเป็นเรื่องของสัญลักษณ์ที่ใช้กันในงานอิเล็กทรอนิกส์ เหตุผลที่ต้องรู้สิ่งนี้เป็นอันดับแรกก็เพราะว่าจะได้อ่านค่าตีความหมายต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง และมันก็เป็นภาษาหลักที่ช่างอิเล็กทรอนิกส์ใช้เพื่อสื่อสารระหว่างกันด้วย
สัญลักษณ์ที่น่าสนใจในงานอิเล็กทรอนิกส์
ต่อไปนี้จะเป็นสัญลักษณ์ซึ่งแสดงถึงอุปกรณ์ต่างๆ ในงานอิเล็กทรอนิกส์ บางชิ้นก็จะเหมือนกับงานไฟฟ้านั่นเอง ลองมาดูลักษณะของสัญลักษณ์ ความหมายและบทบาทของอุปกรณ์แต่ละชิ้นไปพร้อมๆ กันเลย
เซลล์ไฟฟ้า
ลักษณะของสัญลักษณ์จะเป็นเส้นตรงแนวนอนลากมาจากทางฝั่งซ้ายและฝั่งขวาในระดับเดียวกัน แล้วเว้นที่ว่างตรงกลางเล็กน้อยสำหรับเส้นตรงแนวตั้งจำนวน 2 เส้น วางตัวในแนวขนานกันแต่เส้นหนึ่งสั้น เส้นหนึ่งยาว เซลล์ไฟฟ้านี้ก็คือแหล่งพลังงานที่อยู่ในวงจรนั่นเอง จะเป็นอะไรก็ได้ เช่น ถ่านไฟฉาย เป็นต้น
สายไฟ
สายไฟเป็นอุปกรณ์สำหรับเชื่อมโยงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เข้าด้วยกัน สัญลักษณ์ของสายไฟก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้ง่าย จะเป็นเพียงเส้นบางๆ ที่ลากตรงก็ได้หรือลากให้คดโค้งก็ได้ แต่ในการวาดวงจรอิเล็กทรอนิกส์เรานิยมวาดให้เป็นเส้นตรงมากกว่า เพราะมันดูเป็นระเบียบและอ่านได้ง่าย
สวิตช์ไฟ
สวิตซ์เป็นอุปกรณ์ควบคุมการไหลของกระแสไฟ ลักษณะของสัญลักษณ์จะเริ่มด้วยเส้นตรงแนวนอน 2 เส้นลากเข้าหากัน ตรงกลางเว้นช่องว่างไว้ ที่ปลายเส้นตรงจะจบด้วยวงกลมถมดำ พร้อมกับมีเส้นตรงวางแนวเฉียงต่อออกมาจากวงกลมถมดำข้างหนึ่ง หากมองแล้วก็ชวนให้นึกถึงการกดเปิดปิดสวิตช์ไฟอยู่เหมือนกัน
ตัวต้านทาน
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชิ้นนี้ทำหน้าที่ต้านกระแสไฟตามชื่อของมัน เพื่อบังคับให้ปริมาณกระแสไฟเป็นไปตามที่ต้องการ สัญลักษณ์ของตัวต้านทาน จะเป็นเส้นตรงที่ลากในแนวนอนแล้วขีดให้หยักเหมือนฟันปลาตรงช่วงกลาง จากนั้นก็กลับมาลากเป็นเส้นตรงแนวนอนธรรมดาอีกครั้งหนึ่ง
หลอดไฟ
สัญลักษณ์ของหลอดไฟก็จะคล้ายคลึงกับตัวต้านทาน เพราะตามหลักการคำนวณทางไฟฟ้า หลอดไฟก็นับได้ว่าเป็นตัวต้านทานชนิดหนึ่ง สัญลักษณ์จะเริ่มจากเส้นตรงแนวนอนแล้วเขียนหยักขึ้นลงเป็นฟันปลาช่วงกลาง ก่อนจะจบด้วยเส้นตรงแนวนอนเหมือนเดิม แต่จะต่างกับตัวต้านทานตรงที่หลอดไฟจะมีรูปวงกลมครอบส่วนที่หยักเป็นฟันปลาเอาไว้ด้วย
ไดโอด
ตัวไอโอดนี้ทำหน้าที่จัดการกับทิศทางการไหลของกระแสไฟ แต่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความเข้มหรือปริมาณการไหลของกระแสไฟเลย สัญลักษณ์ที่ใช้จะเป็นเส้นตรงแนวนอนที่ลากผ่านจุดศูนย์กลางของวงกลมวงหนึ่ง ภายในวงกลมนั้นมีรูปสามเหลี่ยมที่หันส่วนยอดแหลมอันหนึ่งไปเชื่อมต่อกับเส้นตรงแนวตั้ง มักจะเป็นสัญลักษณ์ที่พอได้เห็นก็จำได้ทันทีว่าเป็นไดโอด เพราะไม่คล้ายคลึงกับอุปกรณ์อื่นๆ เลย
แอมมิเตอร์
แอมมิเตอร์เป็นเครื่องมือที่เราใช้ต่อเข้าไปในวงจรเพื่อวัดว่ากระแสไฟที่ไหลผ่านจุดที่สนใจมีค่าเท่าไร เป็นอุปกรณ์ที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวงจร ใช้เพื่อวัดค่าเท่านั้น สัญลักษณ์ของแอมมิเตอร์คือ เป็นวงกลมที่มีอักษร A อยู่ตรงกลาง แล้วมีเส้นตรงแนวนอนลากต่อจากเส้นรอบวงกลมไปทางด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง
โวลต์มิเตอร์
โวลต์มิเตอร์ก็เป็นเครื่องมือที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวงจรเช่นเดียวกับแอมมิเตอร์ ทำหน้าที่วัดความต่างศักย์ของจุดที่กำลังสนใจ สามารถต่อเข้ากับวงจรและถอดออกได้ สัญลักษณ์จะมีลักษณะเหมือนกับแอมมิเตอร์เลย เพียงแค่เปลี่ยนตัวอักษรข้างในจาก A เป็น V เท่านั้น
แบตเตอร์รี่
แบตเตอร์รี่เป็นแหล่งจ่ายไฟชนิดหนึ่งคล้ายๆ กับเซลล์ไฟฟ้า ดังนั้นสัญลักษณ์ที่ใช้จึงคล้ายคลึงกันไปด้วย โดยมีเส้นตรงแนวนอนลากมาจากทางฝั่งซ้ายและขวา เว้นช่องกลางไว้สำหรับเส้นตรงแนวตั้งที่สั้นยาวไม่เท่ากัน จุดต่างอยู่ที่เซลล์ไฟฟ้ามีเพียง 2 เส้น แต่แบตเตอร์รี่มี 4 เส้น